• กลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) ประกาศรับสมาชิกใหม่ 6 ประเทศ รวมอียิปต์
• ที่ประชุมสุดยอดผู้นำบริกส์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 ได้ประกาศรับสมาชิกใหม่ 6 ประเทศ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ได้แก่ อาร์เจนตินา เอธิโอเปีย อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ และเอมิเรตส์
• การขยายกลุ่มบริกส์ (BRICS plus) ครั้งนี้ (เป็นการขยายกลุ่มครั้งที่ 2 โดยครั้งแรก BRIC เปิดรับแอฟริกาใต้เข้ากลุ่มเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2553)  ได้ถูกยกขึ้นหารือในที่ประชุมสุดยอดผู้นำบริกส์ในปี 2560 โดยจีน ซึ่งต้องการผลักดันการขยายกลุ่มไปยังประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจสำคัญในภูมิภาคตน มีเสถียรภาพทางการเมือง ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ทางการค้า และมีความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มบริกส์ โดยได้มีการทาบทามประเทศศักยภาพที่เข้าร่วมประชุมครั้งนั้นในฐานะผู้สังเกตการณ์ ซึ่งมีอียิปต์และไทยรวมอยู่ด้วย  ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่มบริกส์ประกอบด้วยสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้
• อียิปต์ยื่นใบสมัครอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 เพื่อขอร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มบริกส์ โดยอียิปต์เชื่อมั่นว่ามีคุณสมบัติครบทุกประการ โดยเฉพาะด้านความสัมพันธ์กับสมาชิกกลุ่มบริกส์  เช่น รัสเซียที่ช่วยอียิปต์ก่อสร้างเขื่อนที่เมืองอัสวานและโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองดาบาอ์ บราซิลที่มีมูลค่าการค้ากับอียิปต์ 2.6 พันล้านดอลลลาร์สหรัฐและจัดทำ FTA กับอียิปต์ร่วมกับกลุ่ม MERCOSUR จีนที่มีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในอียิปต์ โดยเฉพาะดาวเทียม ทางรถไฟความเร็วสูง และการสร้างเมืองราชการแห่งใหม่ และอินเดียที่เข้ามาลงทุนและทำการค้าในอียิปต์เป็นจำนวนมาก โดยการค้าระหว่างกลุ่มบริกส์-อียิปต์ในปี 2565 มีมูลค่า 31.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 จากปี 2564  และการลงทุนของกลุ่มบริกส์ในอียิปต์ในปี 2564-65 มีมูลค่า 891.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.9 จากปี 2563-2564 (ที่มา Egyptian Central Agency for Public Mobilization and Statistics (CAPMAS) อ้างใน “Egypt stands to gain multiple benefits as a member of the BRICS bloc: Experts” ใน Ahram Online)
• ข้อสังเกต
• 1) อียิปต์จะได้ประโยชน์จากขนาดเศรษฐกิจของกลุ่ม BRICS plus ที่มีประชากรรวมร้อยละ 46 ของประชากรโลก (ที่มา “Brics to Admit Six New Countries to Bloc Including Iran and Saudi Arabia” ใน http://infobrics.org/) และมี GDP ที่คาดว่าจะสูงถึงร้อยละ 40 ของ GDP โลก ในปี 2593 ซึ่งคาดว่าจะทำให้การค้าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และการถ่ายโอนเทคโนโลยี ไหลเข้าอียิปต์เป็นจำนวนมาก (ที่มา “Assessing the Economic Implication of Egypt’s Potential Membership in BRICS: Opportunities, Challenges, and Prospects” ใน ERRA International Journal of Environmental Economics, Commerce and Educational Management)
• 2) ความพยายามของกลุ่มบริกส์ที่จะใช้สกุลเงินทางเลือก (ที่ไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐ) ในการทำการค้าระหว่างสมาชิกจะส่งผลดีต่ออียิปต์ที่กำลังประสบภาวะขาดแคลนดอลลาร์สหรัฐมายาวนาน 1.5 ปี
• โดยคาดว่าจะช่วยอุดช่องว่างของดอลลาร์สหรัฐที่อียิปต์ต้องการได้ถึง 17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึงปี 2569 (ที่มา “Explainer: Four key benefits for Egypt as a member of BRICS” ใน Ahram Online)
• 3) อียิปต์จะมีความมั่นคงในสินค้ายุทธศาสตร์ โดยอียิปต์ได้มีการหารือกับรัสเซียเพื่อขอซื้อข้าวสาลีด้วยเงินรูเบิลรัสเซีย และอินเดียเพื่อขอซื้อข้าวด้วยเงินรูปีอินเดีย รวมถึงสินค้ายุทธศาสตร์อื่น ๆ
• 4) ธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (New Development Bank) ของกลุ่มบริกส์ ที่ปราศจาก
• การครอบงำของสหรัฐอเมริกา สามารถเป็นแหล่งเงินกู้ทางเลือกให้อียิปต์ได้ โดยตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2558 ธนาคารฯ ได้อนุมัติกว่า 90 โครงการ เพื่อก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เป็นเงิน 32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
• 5) ภาคเอกชนอียิปต์ให้การสนับสนุนการร่วมกลุ่มบริกส์ โดย Federation of Industries เห็นว่า BRICS plus จะนำไปสู่การค้าระหว่างประเทศยุคใหม่ที่ใช้สกุลเงินที่หลากหลาย มิใช่จำกัดเฉพาะดอลลาร์สหรัฐซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันต่อค่าเงินปอนด์ ขณะที่ Egyptain Businessmen’s Association เห็นว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์กับอียิปต์ใน 4 ด้าน ได้แก่ กระชับความสัมพันธ์กับกลุ่ม บริกส์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพิ่มการค้าระหว่างบริกส์-อียิปต์ ทำให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศไหลเข้าประเทศ และส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (ที่มา “Egypt joins BRICS in bid to boost trade, investment” ใน Daily News ฉบับวันที่ 27 สิงหาคม 2566)
• ความท้าทาย อียิปต์จะต้องเร่งปรับตัวเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตนโดยเฉพาะด้านการค้าระหว่างประเทศ ที่อาจทำให้อียิปต์ขาดดุลการค้ากับกลุ่มบริกส์มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน อียิปต์ยังคงพึ่งพาการนำเข้าเป็นจำนวนมาก โดยในปี 2565 การนำเข้าสินค้าจากกลุ่มบริกส์มายังอียิปต์ มีมูลค่า 26.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การส่งออกสินค้าจากอียิปต์ไปยังกลุ่มบริกส์ มีมูลค่า 4.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา “Maait unveils reasons regarding Egypt’s request to join BRICS” ใน State Information Service) อีกทั้งอียิปต์จะต้องขยายฐานรายได้ให้หลากหลายมากขึ้น มิใช่กระจุกตัวอยู่ที่ภาคการท่องเที่ยว เงินโอนจากต่างประเทศ (Remittance) และค่าธรรมเนียมผ่านคลองสุเอซ เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับภาคเศรษฐกิจ
• ปัจจุบัน เศรษฐกิจอียิปต์ยังอยู่ในภาวะที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยมีปัจจัยบ่งชี้สำคัญ ได้แก่      (1) ภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ คือประมาณร้อยละ 35 และมีแนวโน้มจะสูงคงที่ต่อไป (2) สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ได้ส่งผลกระทบต่ออียิปต์อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากอียิปต์นำเข้าข้าวสาลีมากที่สุดในโลกและต้องพึ่งพิงการนำเข้าข้าวสาลีจากทั้งสองประเทศ ร้อยละ 80 (3) หนี้สาธารณะอียิปต์เพิ่มขึ้น 4 เท่า ในช่วงแปดปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน อยู่ในระดับร้อยละ 92.9 ของ GDP (4) ค่าเงินปอนด์อียิปต์อ่อนค่าลงกว่าครึ่ง เมื่อเทียบกับปี 2565 และ (5) ภาวะการขาดแคลนดอลลาร์สหรัฐของอียิปต์ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้อียิปต์ใช้ความพยายามอย่างยิ่งเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกกลุ่มบริกส์ โดยเฉพาะจีน รัสเซีย และอินเดีย ด้วยหวังว่ากลุ่มบริกส์จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยอียิปต์ในการจัดการกับปัญหาเศรษฐกิจดังกล่าวได้บ้าง โดยเฉพาะการใช้เงินสกุลทางเลือกแทนดอลลาร์สหรัฐ ในการทำการค้าระหว่างสมาชิก การเข้าถึงสินค้ายุทธศาสตร์ และแหล่งเงินกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ของบริกส์ REF : https://www.ditp.go.th/post/144614

BRICS: Acronym for Brazil, Russia, India, China, and South Africa

What Is BRICS?

BRICS is an acronym for Brazil, Russia, India, China, and South Africa. The term was initially created as BRIC (without South Africa) by Goldman Sachs economist Jim O’Neill in 2001. He believed that by 2050 the four BRIC economies would come to dominate the global economy. South Africa was added to the list in 2010.

The BRICS countries operate as an organization that seeks to further economic cooperation amongst member nations and increase their economic and political standing in the world.1

KEY TAKEAWAYS

• BRICS is an acronym for Brazil, Russia, India, China, and South Africa.
• Economist Jim O’Neill created the term BRIC in 2001 (for Brazil, Russia, India, and China) with the belief that these economies would dominate global growth by 2050.
• The BRICS nations offered a source of foreign expansion for firms and strong returns for institutional investors.
• The organization seeks to deepen economic cooperation between the member countries and stand in contrast to the Western sphere of power.
• Saudi Arabia, Iran, Ethiopia, the United Arab Emirates, Egypt, and Argentina were invited to join BRICS in 2023.
• Understanding BRICS
• Brazil, Russia, India, China, and South Africa ranked among the world’s fastest-growing emerging market economies for years. This was thanks to low labor costs, favorable demographics, and abundant natural resources at a time of a global commodities boom.
• The group has a set of joint priorities including:
• Working to resolve regional problems, such as the Iranian nuclear program and conflicts in Libya, Syria, and Afghanistan
• Tackling financial and economic issues like reforms at the World Bank and International Monetary Fund (IMF)
• Establishing the BRICS Interbank Cooperation Mechanism2
• The Goldman Sachs thesis didn’t suggest that these countries would become a political alliance like the European Union (EU) or even a formal trading association.
• nstead, the investment banking firm believed that these countries had the potential to form a powerful economic bloc, even as it acknowledged that its forecasts were optimistic and dependent on significant policy assumptions.
• Still, the implication was that economic power would bring political power, and indeed leaders from BRICS countries regularly attended summits together and often acted in concert with each others’ interests.
• History of BRICS
• BRICS sees itself as countering the traditional Western-led global order, with some member states viewing the organization as a way to boost their influence around the world.
• Still, the nations may disagree on fundamental factors, such as transparency and a balanced approach, which may hinder the growth of the group.
• How It Works
• The group operates as an informal confederation of nations that meets annually at the BRICS convention. There, members and heads of state seek to build economic cooperation between the nations.
• The head of state of a member nation acts as the chairman of the group, rotating once a year. Informal meetings began in 2006 but the group’s first official meeting was on June 16, 2009, in Yekaterinburg, Russia.
• Because of their economic power and the appeal of disentangling from the West to a degree, BRICS claims that over 40 countries seek to join the group. It announced that it invited additional countries to join the group at its 2023 summit. Full membership will be granted to Argentina, Ethiopia, Iran, Saudi Arabia, Egypt, and the United Arab Emirates on Jan. 1, 2024.6
• Other Key Developments
• The growth of the New Development Bank. The institution was established in 2015 to provide emerging markets and developing countries with funding for infrastructure and sustainable development projects.
• The establishment of the BRICS Parliamentary Forum, which is designed to “strengthen and promote contacts at the leadership level of chambers, committees and groups of parliamentarians.” This body is responsible for inter-parliamentary exchanges and consultations along with the development of new mechanisms for inter-parliamentary cooperation.
• IMPORTANT …. The BRICS thesis of a non-Western global order became conventional market wisdom in the aughts. But there were always skeptics, including some who claimed the term was Goldman marketing hype for its BRICS-focused investment fund.

FAST FACT … According to BRICS, the GDP of their nations accounts for 31.5% of global GDP as of 2023, compared to the 30.7% of the G7 nations.

Goldman Sachs’ BRIC Thesis

In 2001, Goldman Sach’s O’Neill noted that while global gross domestic product (GDP) was set to rise 1.7% in 2002, BRIC nations were forecasted to grow more quickly than the Group of Seven (G7). The G7 are the world’s seven most advanced global economies: Canada, France, Germany, Italy, Japan, the United Kingdom, and the U.S.

In the paper “Building Better Economic BRICs,” O’Neill outlined his view of the potential of the BRIC nations.3

Almendron. “Goldman Sachs: Building Better Global Economic BRICs,” Page S.03.

In 2003, O’Neill’s Goldman colleagues Dominic Wilson and Roopa Purushothaman followed up with their report “Dreaming with BRICs: The Path to 2050.”

The two authors claimed that by 2050, the BRIC cluster could grow to a size larger than the G6 (the G7 minus Russia), and the world’s largest economies would therefore look drastically different in four decades. That is, the largest global economic powers no longer would be the richest according to income per capita.10

In 2007, Goldman published another report, “BRICs and Beyond,” that focused on BRIC’s growth potential, the environmental impact of these growing economies, and the sustainability of their rise.

The report also outlined a Next 11, a term for 11 emerging economies, in relationship to the BRIC nations, as well as the ascendancy of new global markets

Closure of Goldman’s BRICS Fund

Growth in the BRICS economies slowed down after the global financial crisis of 2007-2008 and the oil price collapse that began in 2014.

By 2015, the BRICS acronym no longer looked like an attractive investment venue, and funds aimed at these economies either shut down or merged with other investment vehicles.9

Goldman Sachs merged its BRICS investment fund, which was focused on generating returns from these economies, with its broader Emerging Markets Equity Fund. The fund lost 88% of its assets from a 2010 peak.12

In a filing with the Securities and Exchange Commission (SEC), Goldman Sachs stated that it did not expect “significant asset growth in the foreseeable future” in the BRICS fund. Per a Bloomberg report, the fund lost 21% in five years.

What Countries Are in BRICS?

The BRICS nations are Brazil, Russia, India, China, and South Africa. In 2023, the group invited Argentina, Ethiopia, Iran, Saudi Arabia, Egypt, and the United Arab Emirates to join. Full membership is expected to be granted as of Jan. 1, 2024

What Is the Main Goal of BRICS?

The overarching goals of BRICS are cooperation, development, and influence in international affairs. Drilling down, BRICS seeks to build economic cooperation, development financing, political coordination, social and cultural exchanges, technology and innovation, sustainable development, and peace and security

• The Bottom Line
• BRICS refers to certain emerging market countries—Brazil, Russia, India, China, South Africa, and more—that seek to establish deeper ties between member nations and cooperate on economic expansion, including trade. The countries act as a counterbalance to traditional Western influence. They seek to depend on each other to build growing influence in the world. REF: https://www.investopedia.com/terms/b/brics.asp